การดูแลสุขภาพ สำหรับโรคภูมิแพ้
คุณมีอาการแบบนี้หรือไม่ เวลาอากาศเปลี่ยน เจอควันบุหรี่ เกสรดอกไม้ เจอฝุ่นละออง ไร่ฝุ่น
เจอขนสุนัข ขนแมว มักมีอากาศจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล
เรามาทำความรู้จักกับโรคภูมิแพ้อากาศกัน
ภูมิแพ้อาการ คือ
ภูมิแพ้อากาศ คือ อาการของเนื้อเยื่อจมูกเกิดอักเสบ เมื่อร่างกาย มีปฏิกิริยา
ต่อสารก่อภูมิแพ้ ในอากาศ เช่นพวก ฝุ่นละออง ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ แมลงสาบ
ขนสัตว์ รวมถึงควันบุหรี่ มลพิษในอากาศ ซึ่งทำให้เกิดการคันจมูก จาม น้ำมูกไหล คัดจมูก
ไอและเจ็บคอ
คนที่เป็นภูมิแพ้อากาศ จะตอบสนองต่อกลิ่นและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เร็วกว่า มากกว่า คนทั่วไป
ซึ่งในแต่ละคนก็อาจจะแพ้ สารก่อภูมิแพ้ที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราควรจะต้องสังเกตอาการของตัวเองว่า แพ้สิ่งใด
อาการมักเป็นอย่างไร เช่น
การแพ้มักเกิดหลังจากการเล่นสัตว์เลี้ยงหรือไม่
เกิดตอนอยู่ในบ้าน หรือนอกบ้าน
เกิดจากเกสรดอกไม้ด้วยหรือไม่
เกิดเวลาอากาศเปลี่ยน เย็น ร้อน และอาการเป็นอย่างไร
อาการ ภูมิแพ้อากาศ
อาการของภูมิแพ้อากาศมีหลายอาการ
โดยสามารถเกิดขึ้นเพียงอาการเดียว หรือเกิดหลายอาการพร้อมกันได้ ดังนี้
สัมผัสสารก่อภูมิแพ้แล้วมีอาการคันจมูก จามติดๆ กัน มีน้ำมูกใส และคัดจมูก
คันที่ตา คอ หู หรือเพดานปาก
ปวดศีรษะ เสียงเปลี่ยน และจมูกไม่ได้กลิ่น
น้ำมูกไหลลงคอ ไอ เจ็บคอเรื้อรัง
หูอื้อ หรือมีเสียงดังในหู
เปลือกตาบวม
การดูแลตัวเอง เมื่อเป็นภูมิแพ้
ดูแลสุขลักษณะภายในบ้านเพื่อลดไรฝุ่น เช่น ทำความสะอาดพื้นด้วยการถู ซึ่งดีกว่าการกวาดที่ทำให้ฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย ทำความสะอาดพรมด้วยเครื่องดูดฝุ่น
การใช้ยา ตามแพทย์แนะนำ เพื่อช่วยควบคุมอาการ เช่น คอร์ติโคสเตียรอยด์ ที่มักใช้ในระยะยาว ยาต้านฮีสตามีน
หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้
ใช้ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าม่าน ประเภทที่ไม่สะสมไร
ซักผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าหม่บ่อยๆ
ใช้เครื่องฟอกอากาศ
ล้างมือบ่อยๆ
หลีกเลี่ยงสัตว์เลี้ยง ในกรณีของผู้แพ้ขนสัตว์ ไม่ควรให้สัตว์เลี้ยงเข้ามาอยู่ในห้องนอนระหว่างนอนหลับ
หลีกเลี่ยงการใช้พรม เพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นในบ้านได้ อาจเลือกใช้พรมเนื้อแข็ง หรือเสื่อน้ำมันแทนได้
อาหารต้านภูมิแพ้
วิตามินซี มีบทบาทในการป้องกันการหลั่งฮิสตามีน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้อากาศ
และการแพ้ต่างๆ
อาหารเพิ่มวิตามินซี มีในผักใบเขียว เช่น ตำลึง ผักโขม บร็อคโคลี กะหล่ำปลี
และผลไม้รสเปรี้ยว เช่น สับปะรด ส้ม สตรอเบอรี่ มะนาว
วิตามีนเอ ช่วยสร้างเนื้อเยื่อ และเสริมสร้างเยื่อบุต่างๆ ของร่างกาย บรรเทาอาการเมื่อได้รับสารกระตุ้น
ภูมิแพ้ได้
อาหารเพิ่มวิตามินเอ มีในผักผลไม้สีเขียวเข้ม สีส้ม หรือสีเหลือง เช่น ฟักทอง แครอท มะละกอสุก มะม่วงสุก
แคนตาลูป มะเขือเทศ เป็นต้น
โปรตีน ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายได้ มีกรดอะมิโน เป็นสารสำคัญในการใช้สร้างภูมิคุ้มกันต่างๆ
อาหารเพิ่มโปรตีน มีมากในเนื้อสัตว์ อย่างเนื้ออกไก่ เนื้อหมู และไข่ไก่ นอกจากนี้ก็ยังพบได้ในถั่วต่างๆ
โอเมก้า 3 จะช่วยลดอาการอักเสบ เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และยังสามารถต่อสู้กับกลุ่มเชื้อโรค
หรือสารแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายได้เป็นอย่างดี
อาหารเพิ่มโอเมก้า 3 ได้จาก ปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลากะพง
ซึ่งอาหารกลุ่มนี้อาจมีส่วนไปกระตุ้นอาการภูมิแพ้ได้
ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่นอนก่อนว่าคุณแพ้อาหารทะเลหรือไม่
ส่วนกรดไขมันโอเมก้า 3 ก็มีประโยชน์เช่นกัน พบมากในเมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง
และผักใบสีเขียวเข้ม
ซีลิเนียม ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอม หรือสารกระตุ้นภูมิแพ้ได้
อาหารเพิ่มซีลิเนียม พบมากในพืชตระกูลหอม เช่น หอมหัวใหญ่ หอมแดง เป็นต้น
ฟลาโวนอยด์เควอเซทิน เป็นสารต้านอาการแพ้และลดการอักเสบ ช่วยยับยั้งการปล่อยสารฮิสตามิน
ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นอาการภูมิแพ้
อาหารเพิ่มฟลาโวนอยด์เควอเซทิน พบมากในกระเทียม และพืชตระกูลหอม อย่างหอมหัวใหญ่ หอมหัวแดง และในแครอทผักกาดหอม แอปเปิ้ล เป็นต้น
นอกการทานอาหารแล้ว อย่าลืมออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ด้วยนะค่ะ
|