การดูแลสุขภาพ สำหรับโรคเบาหวาน

ผลิตภัณฑ์กาโน่

การดูแลสุขภาพ สำหรับโรคเบาหวาน

เบาหวาน เป็นภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน ส่งผลให้กระบวนการดูดซึมน้ำตาลในเลือดให้เป็นพลังงานของเซลล์ในร่างกายมีความผิดปกติ หรือทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จนเกิดน้ำตาลสะสมในเลือดปริมาณมาก หากปล่อยให้ร่างกายอยู่ในสภาวะนี้เป็นเวลานานจะทำให้อวัยวะต่าง ๆ เสื่อม เกิดโรคและอาการแทรกซ้อนขึ้น หากมีอาการเหล่านี้ ควรได้รับการตรวจน้ำตาลในเลือด

 

อาการของโรคเบาหวาน

  • ปัสสาวะบ่อย ถึงบ่อยมาก เนื่องจากกระบวนการกรองน้ำตาลในเลือดที่สูงมากออกมากทางปัสสาวะ ไตจำเป็นต้องดึงน้ำออกมาด้วย จึงทำให้ ต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนหลายครั้ง
  • คอแห้ง กระหายน้ำ เป็นผลมาจากการที่ร่างกายเสียน้ำไปจากการปัสสาวะบ่อย
  • หิวบ่อย กินจุ น้ำหนักลด ร่างกายอ่อนเพลีย เนื่องจากภาวะขาดอินซูลิน ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้ ร่างกายจึงจำเป็นต้องนำเอาโปรตีนที่เก็บสะสมไว้ในเนื้อเยื่อมาใช้แทน
  • ตามัว ชาปลายมือ ปลายเท้า
  • ผิวแห้ง คัน เป็นแผลง่าย หายยาก

  •  

    ระดับน้ำตาลในเลือดดูอย่างไร

    ระดับน้ำตาลในเลือด หลังงดอาหารที่มีพลังงานเป็นเวลา 8-12 ชั่วโมง
  • ระดับน้ำตาลในเลือด อยู่ระหว่าง 70-100 คุณอยู่ในภาวะปกติ
  • ระดับน้ำตาลในเลือดเท่ากับ 100 – 125 คุณมีภาวะความเสี่ยง
  • ระดับน้ำตาลในเลือด มากกว่า 126 คุณมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

  •  

    อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง สำหรับโรคเบาหวาน

    ขนมหวาน อาหารทอด อาหารมัน น้ำหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ผสมน้ำตาล เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มแอลกฮอล์ นมข้นหวาน นมรสหวาน ผลไม้รสหวานจัด เช่น ลำไย ลิ้นจี่ ทุเรียน น้อยหน่า ละมุด ขนุน อ้อย ผลไม้เชื่อม กวน ดอง แช่อิ่ม ตากแห้ง อบน้ำผึ้ง รวมทั้งผลไม้กระป๋อง

     

    การดูแลตัวเอง สำหรับเบาหวาน

  • ทานให้ครบ 5 หมู่ แต่ให้ลดพลังงาน น้ำตาล และไขมันที่ทาน
  • เลือกทานคารโบไฮเดต ที่มีเส้นใยอาหารสูง เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีทและธัญพืชไม่ขัดสี ผัก ถั่ว ผลไม้ อาหารที่มีเส้นใยอาหารสูงจะย่อยช้ากว่าประเภทอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่
  • ควรทานผักวันละ 3-4 ทัพพีทั้งผักสดและผักสุก โดยเฉพาะผักชนิดใบ ลดการรับประทานผักที่เป็นหัวใต้ดินหรือมีแป้งสะสมเยอะ เช่น ฟักทอง หัวแครอท
  • ผลไม้ทุกชนิดมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ ควรเลือกทานผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ 1 ชนิดต่อมื้อ วันละ 2-3 ครั้ง แทนการกินขนมหวาน เช่น ฝรั่ง แอปเปิ้ล แก้วมังกร สตรอเบอร์รี่ ส้ม ชมพู่ สาลี่ กล้วยน้ำว้า(ห่าม) เป็นต้น
  • เลือกทานอาหารที่มีไขมันต่ำ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกะทิ เบเกอรี่ อาหารทอดต่างๆ และเนื้อสัตว์ติดหนังติดมัน เลือกประกอบอาหารประเภทต้ม นึ่ง ย่าง อบแทนการทอด
  • แต่ละมื้ออาหารควรห่างกัน 4 – 5 ชั่วโมง ไม่งดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่ง เลี่ยงการกินจุบจิบ
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลหรือแป้งสาลีขัดสี เช่น ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว รวมทั้งเครื่องดื่มที่มีการเติมน้ำตาล สามารถใช้น้ำตาลเทียมใส่เครื่องดื่มและอาหารแทนได้
  • ดูแลน้ำหนักตัวอย่าให้อ้วน และ การออกกำลังกาย

  •  

     

    บทความ การดูแลสุขภาพ


     

    ผลิตภัณฑ์กาโน่